สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ AFC ส่งทีมตรวจสภาพความพร้อมสนามสมโภชเชียงใหม่ ในการเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในปี 2563
21 ก.พ. 62 นายนภดล เกิ้งบุรี ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและนำเจ้าหน้าที่จากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ AFC นำโดย นาย ยู จิน โฮ ฝ่ายจัดการแข่งขัน ,นาย เชลตัน กูลการนิ ฝ่ายสื่อและประชาสัมพันธ์, โมฮาหมัด ราซากีดิน บิน ราซาลลี ฝ่ายบริการทั่วไป, ฟาดฮิล อัซรี บิน อิสมาอิล ฝ่ายออกแบบสนาม เข้าตรวจสภาพความพร้อมของสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 สนาม ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำเสนอสำหรับใช้ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หรือ AFC U-23 Championship 2020 รอบ Finals 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะจัดการแข่งขันขึ้นในระหว่างวันที่ 8 ถึง 26 มกราคม 2563
ทั้งนี้ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 5 ได้นำคณะเจ้าหน้าที่จาก AFC ตรวจความพร้อมในด้านต่างๆ อาทิ สภาพของสนามที่จะใช้จัดการแข่งขัน สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในระดับนานาชาติ ความพร้อมในการรองรับการเข้าชมของแฟนบอล การรักษาความปลอดภัยของแขกคนสำคัญและคณะนักฟุตบอลที่ร่วมการแข่งขัน รวมถึงการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน ทั้งนี้ AFC จะตรวจสภาพความพร้อมของอีก 5 สนามที่เหลือ คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน,สนามบางกอกกล๊าส สเตเดียม ,สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา ,สนาม เมืองทอง สเตเดียม และสนามฟุตบอลภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นจะพิจารณาเลือกให้เหลือ 4 สนาม ที่มีสภาพความพร้อมในทุกด้านเป็นไปตามมาตรฐานที่ AFC กำหนดมากที่สุด เพื่อใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สำหรับสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี มีความจุ 25,000 ที่นั่ง เคยใช้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2538 และจัดการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติอีกหลายรายการ ปัจจุบันยังใช้เป็นสนามรังเหย้าของ พยัคฆ์ล้านนา เชียงใหม่ เอฟซี ในไทยลีก 1 และ เจแอล เชียงใหม่ ในไทยลีก 2 อีกด้วย